Information Technology Infrastructure
Telecommunications, the Internet, and Wireless Technology
เทคโนโลยีสารสนเทศ โครงสร้างพื้นฐาน (โทรคมนาคม, อินเตอร์เน็ต, และเทคโนโลยีไร้สาย)
WHAT IS A COMPUTER NETWORK? : อะไรคือเครือข่ายคอมพิวเตอร์?
· เครือข่ายประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไป
· แสดงฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์และการส่งผ่านที่สำคัญ
คอมโพเนนต์ ที่ใช้ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เรียบง่ายประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ไคลเอ็นต์
และคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์เฉพาะระบบเชื่อมต่อเครือข่ายระบบปฏิบัติการเครือข่าย (NOS) ที่อาศัยอยู่บนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์เฉพาะระบบการเชื่อมต่อ (สายไฟ)
การเชื่อมต่ออุปกรณ์ฮับ สวิตช์และเราเตอร์
Networks in Large Companies : เครือข่ายในบริษัทขนาดใหญ่
· โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายขององค์กรในปัจจุบันคือชุดของเครือข่ายที่หลากหลายจากเครือข่ายโทรศัพท์แบบสาธารณะไปยังอินเทอร์เน็ตกับเครือข่ายท้องถิ่นขององค์กรที่เชื่อมโยงกลุ่มงานแผนกหรือพื้นสำนักงาน
NETWORKING TECHNOLOGIES : เทคโนโลยีเครือข่าย
· คอมพิวเตอร์ไคลเอ็นต์
/ เซิร์ฟเวอร์เป็นรูปแบบการคำนวณแบบกระจายซึ่งลูกค้าที่มีประสิทธิภาพเชื่อมโยงกันผ่านทางเครือข่ายที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์เครือข่าย
· การสลับแพ็คเก็ต
เป็นวิธีการหั่นข้อความดิจิทัล ลงในห่อที่เรียกว่า แพ็กเก็ต ส่งแพ็คเก็ต ตามเส้นทางการสื่อสารที่แตกต่างกันไปตามที่มีและจากนั้นทำการประกอบส่วนประกอบของแพ็ตเก็ต
อีกครั้งเมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง
· โปรโตคอลคือชุดของกฎและขั้นตอนการควบคุมการรับส่งข้อมูลระหว่างสองจุดในเครือข่าย
· TCP หมายถึงโปรโตคอลการควบคุมการรับส่งซึ่งเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์
เป็นผู้รับผิดชอบการจัดส่งแพ็คเก็ตและรวมถึงถอดและประกอบชิ้นส่วนของแพ็คเก็ตในระหว่างการส่ง
WHATARE THE DIFFERENT TYPES OF
NETWORKS? : อะไรที่แตกต่างกันประเภทของเครือข่าย?
· สัญญาณ : ดิจิตอล
VS อนาล็อก
· มีสองวิธีในการสื่อสารข้อความในเครือข่ายคือสัญญาณอนาล็อกหรือสัญญาณดิจิทัล
· สัญญาณอนาล็อกจะแสดงโดยรูปแบบต่อเนื่องที่ผ่านสื่อการสื่อสารและใช้สำหรับการสื่อสารด้วยเสียง
TYPES OF NETWORKS : ประเภทของเครือข่าย
มีหลายประเภทที่แตกต่างกันของเครือข่ายและวิธีการจำแนกพวกเขา
วิธีหนึ่งในการดูเครือข่ายอยู่ในขอบเขตของขอบเขตทางภูมิศาสตร์ของตนซึ่ง ได้แก่
· Local Area Network (LAN) ได้รับการออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอุปกรณ์ดิจิตอลอื่น
ๆ ภายในรัศมีครึ่งไมล์หรือ 500 เมตร LAN มักจะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เพียงไม่กี่เครื่องในสำนักงานขนาดเล็กคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในอาคารเดียวหรือคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในอาคารหลายแห่งในบริเวณใกล้เคียง
· ครือข่ายพื้นที่กว้าง
(WAN) ครอบคลุมระยะทางทางภูมิศาสตร์กว้าง ๆ
ทั้งภูมิภาครัฐทวีปหรือทั่วโลกยิ่งใหญ่และมีประสิทธิภาพมากที่สุด WAN คืออินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับ WAN ผ่านเครือข่ายสาธารณะเช่นระบบโทรศัพท์หรือระบบสายเคเบิลเอกชนหรือผ่านสายสัญญาณเช่าหรือดาวเทียม
· เครือข่าย Metropolitan Area (MAN) เป็นเครือข่ายที่ครอบคลุมเขตเมืองโดยทั่วไปคือเมืองและเขตชานเมืองที่สำคัญ
ขอบเขตทางภูมิศาสตร์อยู่ระหว่าง WAN และ LAN
TRANSMISSION MEDIA AND TRANSMISSION
SPEED : สื่อการรับส่งและความเร็วในการรับส่ง
· เครือข่ายใช้สื่อส่งผ่านทางกายภาพชนิดต่างๆรวมถึงสายคู่บิดสายเคเบิลคู่สายเคเบิลใยแก้วนำแสงและสื่อเพื่อการรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย
· บิตต่อวินาที (bps) คือจำนวนรวมของข้อมูลดิจิทัลที่สามารถส่งผ่านสื่อโทรคมนาคมใดก็ได้
· เฮิรตซ์มีค่าเท่ากับหนึ่งรอบของสื่อ
· แบนด์วิดท์คือช่วงของความถี่ที่สามารถใช้งานได้กับช่องสัญญาณสื่อสารเฉพาะ
WHAT IS THE INTERNET? : อินเทอร์เน็ตคืออะไร?
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งเชื่อมโยงเครือข่ายมากมายทั่วโลกเข้าด้วยกัน
เพื่ออำนวยความสะดวกในการสืบค้น ข้อมูล คัดลอกแฟ้มข้อมูล และโปรแกรมมาใช้
รวมทั้งสื่อสารถึงกันทางอีเมล.
ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต
1 เป็นแหล่งข้อมูลที่ลึก
และกว้าง เพราะข้อมูลถูกสร้างได้ง่าย แม้นักเรียน หรือผู้สูงอายุก็สร้างได้
2 เป็นแหล่งรับ
หรือส่งข่าวสาร ได้หลายรูปแบบ เช่น mail, board,
icq, irc, sms หรือ web เป็นต้น
3
เป็นแหล่งให้ความบันเทิง เช่น เกม ภาพยนตร์ ข่าว หรือห้องสะสมภาพ เป็นต้น
4
เป็นช่องทางสำหรับทำธุรกิจ สะดวกทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย เช่น e-commerce หรือบริการโอนเงิน เป็นต้น
5 ใช้แทน
หรือเสริมสื่อที่ใช้ติดต่อสื่อสาร ในปัจจุบัน โดยเสียค่าใช้จ่าย และเวลาที่ลดลง
6 เป็นช่องทางสำหรับประชาสัมพันธ์สินค้า
บริการ หรือองค์กร
Internet Architecture and Governance
: สถาปัตยกรรมอินเทอร์เน็ตและการกำกับดูแล
· การรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตจะดำเนินการผ่านโครงข่ายโครงข่ายความเร็วสูงแบบข้ามทวีปซึ่งโดยทั่วไปจะทำงานในช่วง
45 Mbps ถึง 2.5Gbps
INTERNET SERVICES : บริการอินเทอร์เน็ต
World Wide Web (WWW) เครือข่ายใยแมงมุม
เป็นการเข้าสู่ระบบข้อมูลอย่างข้อมูลในรูปของ Interactive Multimedia คือ มีทั้งรูปภาพ ข้อความ ภาพเคลื่อนไหว เสียง
และวีดีโอ อีกทั้งข้อมูลเหล่านี้ยังใช้ระบบที่เรียกว่า hypertext กล่าวคือ จะมีคำสำคัญหรือรูปภาพในข้อมูลนั้นที่จะช่วยให้ท่าน
เข้าสู่รายละเอียดที่ลึกและกว้างขวางยิ่งขึ้น
คำสำคัญดังกล่าวจะเป็นคำที่เป็นตัวหนา หรือขีดเส้นใต้ เพียง แต่ท่านเลือกกด ที่คำ
ที่เป็นตัวหนาหรือขีดเส้นใต้ นั้น ๆ ท่านก็สามารถเข้าสู่ข้อมูลเพิ่มเติมได้
(ข้อมูลเหล่านี้จะมีผู้สร้างขึ้นมาและเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ต่าง ๆ ทั่วโลก)
ไปรษณีย์อิเลคทรอนิคส์ (Electronic Mail
หรือ E-Mail)
เป็นบริการหนึ่งบนอินเทอร์เนตที่คนนิยมใช้กันมากคือส่งจดหมายโดยทางคอมพิวเตอร์ถึงผู้ที่มีบัญชีอินเตอร์เน็ต
ด้วยกันไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลคนละซีกโลกจดหมายก็จะไปถึงอย่างสะดวกรวดเร็วและง่ายดายโปรแกรมที่ใช้
ได้แก่ Hotmail , YahooMail , ThaiMail และยังมี Mail ต่าง ๆ ที่ให้บริการอย่างมากมายในปัจจุบัน ตามหน่วยงานหรือองค์กรต่าง
ๆ
Search Engine (บริการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต)
Search Engine เป็นเว็บไซต์ที่มีเครื่องมือในการที่จะค้นหาเว็บไซต์ต่าง
ๆ มาเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ
ตัวเองโดยอัตโนมัติ เช่น Google.com หรือ Altavista.com ซึ่งเครื่องมือนี้ มีชื่อเรียกว่า Search Robot จะทำหน้าที่คอยวิ่งเข้าไปอ่านข้อความจากหน้าเว็บไซต์
ของเว็บต่าง ๆ แล้วนำมาจัดลำดับคำค้นหา (Index) ที่มีในเว็บไซต์เหล่านั้น
เก็บไว้ในฐานข้อมูลของตนเอง เมื่อเราเข้าไปใช้บริการ กับ Search Engine
Instant Message (บริการสนทนาบนอินเทอร์เน็ต
)
Instant Messaging ก็คือการสนทนาทางโทรศัพท์อย่างหนึ่งแต่เป็นในรูปของตัวอักษร พนักงานในบริษัททั้งขนาดเล็กและใหญ่ต่างใช้ IM เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร สำหรับคนอีกจำนวนมาก IM คือการสื่อสารสำรองเมื่ออีเมล์มีปัญหาหรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ
Telnet
เป็นบริการที่ช่วยให้เราสามารถเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อื่นเสมือนหนึ่งไปนั่งใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของที่นั่น
โปรแกรมที่ช่วยให้ท่านใช้บริการนี้ได้คือ โปรแกรม NCSA
Telnet เมื่อเปิดโปรแกรมแล้วให้พิมพ์คำสั่ง Telnet
ดังในรูปภาพข้างล่างเมื่อท่านใช้คำสั่ง
Telnet แล้วให้พิมพ์ที่อยู๋ของแหล่งข้อมูลนั้น
ท่านก็จะสามารถเข้าสู่ระบบข้อมูลนั้น ๆ
ได้เสมือนท่านไปนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเครื่อง ๆ นั้นเลยทีเดียว ระบบ Telnet
FTP (File Transfer Protocol)
คือ
บริการที่ใช้ในการโอนย้าย file หรือข้อมูลจากคอมพิวเตอร์หนึ่งไปยังอีกคอมพิวเตอร์หนึ่ง
สามารถโอนย้ายข้อมูล เช่น รูปภาพ , ข้อความ , บทความ , คู่มือ
และโปรแกรมต่าง ๆ
Web board (บริการกระดานข่าวหรือ
เว็บบอร์ด )
Web Board คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในลักษณะเป็น
กระดานสนทนา เป็นกระดานแจ้งข่าวสาร ข้อมูล
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
THE WEB : เว็บ
เว็บไซต์ คือ สื่อนำเสนอข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์
หรือคือการรวบรวม หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์
ซึ่งต้องเปิดด้วยโปรแกรมเฉพาะทางที่เรียกว่า Web Browser โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ
และเว็บไซต์นั้นถูกสร้างขึ้นด้วยภาษาทางคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า HTML (Hyper Text Markup Language) และได้มีการพัฒนาและนำภาษาอื่นๆเข้ามาร่วมด้วย
เพื่อให้มีความสามารถมากขึ้น เช่น PHP , SQL ,
Java ฯลฯ
เว็บไซต์
นั้นมีคำศัพท์เฉพาะทางหลายคำ เช่น เว็บเพจ (web page) และ โฮมเพจ (home page) เป็นต้น ปัจจุบันการออกแบบ
เว็บไซต์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เนื่องจากมีเครื่องมือในการ ออกแบบ เว็บไซต์
ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมสำเร็จรูป หรือแม้กระทั่ง CMS (Content Management System) อย่าง joomla, wordpress, drupal เป็นต้น
WIRELESS COMPUTER NETWORKS AND
INTERNET ACCESS
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ไร้สายและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือ
คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก (อังกฤษ: computer
network; ศัพท์บัญญัติว่า ข่ายงานคอมพิวเตอร์)
คือเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมระหว่างคอมพิวเตอร์จำนวนตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไปสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้
การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆในเครือข่าย (โหนดเครือข่าย)
จะใช้สื่อที่เป็นสายเคเบิลหรือสื่อไร้สาย เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่รู้จักกันดีคือ
อินเทอร์เน็ต
การที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน
เพราะมีการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลาย
จึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกัน
เพื่อเพิ่มความสามารถของระบบให้สูงขึ้น และลดต้นทุนของระบบโดยรวมลง
การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกันในเครือข่าย
ทำให้ระบบมีขีดความสามารถเพิ่มมากขึ้น การแบ่งการใช้ทรัพยากร เช่น หน่วยประมวลผล, หน่วยความจำ,หน่วยจัดเก็บข้อมูล, โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ
ที่มีราคาแพงและไม่สามารถจัดหามาให้ทุกคนได้ เช่น เครื่องพิมพ์ เครื่องกราดภาพ (scanner) ทำให้ลดต้นทุนของระบบลงได้
อุปกรณ์เครือข่ายที่สร้างข้อมูล, ส่งมาตามเส้นทางและบรรจบข้อมูลจะเรียกว่าโหนดเครือข่าย.
โหนดประกอบด้วยโฮสต์เช่นเซิร์ฟเวอร์, คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและฮาร์ดแวร์ของระบบเครือข่าย
อุปกรณ์สองตัวจะกล่าวว่าเป็นเครือข่ายได้ก็ต่อเมื่อกระบวนการในเครื่องหนึ่งสามารถที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับกระบวนการในอีกอุปกรณ์หนึ่งได้
เครือข่ายจะสนับสนุนแอปพลิเคชันเช่นการเข้าถึงเวิลด์ไวด์เว็บ, การใช้งานร่วมกันของแอปพลิเคชัน, การใช้เซิร์ฟเวอร์สำหรับเก็บข้อมูลร่วมกัน, การใช้เครื่องพิมพ์และเครื่องแฟ็กซ์ร่วมกันและการใช้อีเมลและโปรแกรมส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีร่วมกัน
ระบบเครือข่ายไร้สาย
ระบบเครือข่ายไร้สาย (WLAN = Wireless
Local Area Network) คือ ระบบการสื่อสารข้อมูลที่มีรูปแบบในการสื่อสารแบบไม่ใช้สาย
โดยใช้การส่งคลื่นความถี่วิทยุในย่านวิทยุ RF และ
คลื่นอินฟราเรด ในการรับและส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ผ่านอากาศ, ทะลุกำแพง, เพดานหรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ
โดยปราศจากความต้องการของการเดินสาย นอกจากนั้นระบบเครือข่ายไร้สายก็ยังมีคุณสมบัติครอบคลุมทุกอย่างเหมือนกับระบบ
LAN แบบใช้สาย
ที่สำคัญก็คือ
การที่ไม่ต้องใช้สายทำให้การเคลื่อนย้ายการใช้งานทำได้โดยสะดวก ไม่เหมือนระบบ LAN แบบใช้สาย
ที่ต้องใช้เวลาและการลงทุนในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์
ปัจจุบันโลกของเราเป็นยุคแห่งการติดต่อสื่อสาร เทคโนโลยีต่างๆ
เช่นโทรศัพท์มือถือ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน
ความต้องการข้อมูลและการบริการต่างๆ มีความจำเป็นสำหรับนักธุรกิจ เทคโนโลยีที่สนองต่อความต้องการเหล่านั้น
มีมากมาย เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เครื่องปาล์ม
ได้ถูกนำมาใช้เป็นอย่างมากและ ผู้ที่น่าจะได้ประโยชน์จากการใช้
ระบบเครือข่ายไร้สาย มีมากมายไม่ว่าจะเป็น
- หมอหรือพยาบาลในโรงพยาบาล
เพราะสามารถดึงข้อมูลมารักษาผู้ป่วยได้จาก เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุค
ที่เชื่อมต่อกับ ระบบเครือข่ายไร้สายได้ทันที
- นักศึกษาในมหาวิทยาลัยก็สามารถใช้งานโน้ตบุ๊กเพื่อค้นคว้าข้อมูลในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย
หรือใช้อินเตอร์เน็ตจากสนามหญ้าในมหาลัยได้
นักธุรกิจที่มีความจำเป็นต้องใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ที่ทำงานปกติ
ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนองานยังบริษัทลูกค้า
หรือการนำเครื่องคอมพิวเตอร์ติดตัวไปงานประชุมสัมมนาต่างๆ
บุคคลเหล่านี้มีความจำเป็นที่จะต้องเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กรซึ่งอยู่ห่างออกไปหรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์สาธารณะ
เช่นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
เทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายจึงน่าจะอำนวยความสะดวกให้กับบุคคลเหล่านี้ได้
ซึ่งในปัจจุบันได้มีการเปิดให้บริการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย
ตามสนามบินใหญ่ทั่วโลก และนำมาใช้งานแพร่หลายในห้างสรรพสินค้า และโรงแรมต่างๆแล้ว
ประโยชน์ของระบบเครือข่ายไร้สาย
1. mobility improves productivity
& service มีความคล่องตัวสูง
ดังนั้นไม่ว่าเราจะเคลื่อนที่ไปที่ไหน หรือเคลื่อนย้ายคอมพิวเตอร์ไปตำแหน่งใด ก็ยังมีการเชื่อมต่อ กับเครือข่ายตลอดเวลา
ตราบใดที่ยังอยู่ในระยะการส่งข้อมูล
2. installation speed and
simplicity สามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว เพราะไม่ต้องเสียเวลาติดตั้งสายเคเบิล
และไม่รกรุงรัง
3. installation flexibility
สามารถขยายระบบเครือข่ายได้ง่าย
เพราะเพียงแค่มี พีซีการ์ดมาต่อเข้ากับโน๊ตบุ๊ค หรือพีซี
ก็เข้าสู่เครือข่ายได้ทันที
4. reduced cost- of-ownership
ลดค่าใช้จ่ายโดยรวม
ที่ผู้ลงทุนต้องลงทุน ซึ่งมีราคาสูง เพราะในระยะยาวแล้ว ระบบเครือข่ายไร้สายไม่จำเป็นต้องเสียค่าบำรุงรักษาและการขยายเครือข่ายก็ลงทุนน้อยกว่าเดิมหลายเท่า
เนื่องด้วยความง่ายในการติดตั้ง
5. scalability เครือข่ายไร้สายทำให้องค์กรสามารถปรับขนาดและความเหมาะสมได้ง่ายไม่ยุ่งยาก
เพราะสามารถโยกย้ายตำแหน่งการใช้งานโดยเฉพาะระบบที่มีการเชื่อมระหว่างจุดต่อจุด
เช่น ระหว่างตึก
ระบบเครือข่ายไร้สาย เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก
ที่ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ไม่มากนัก
และมักจำกัดอยู่ในอาคารหลังเดียวหรืออาคารในละแวกเดียวกัน
การใช้งานที่น่าสนใจที่สุดของเครือข่ายไร้สายก็คือ
ความสะดวกสบายที่ไม่ต้องติดอยู่กับที่
ผู้ใช้สามารถเคลื่อนที่ไปมาได้โดยที่ยังสื่อสารอยู่ในระบบเครือข่าย
รูปแบบการเชื่อมต่อของระบบเครือข่ายไร้สาย
2.1 Peer-to-peer ( ad hoc mode )
รูปแบบการเชื่อมต่อระบบแลนไร้สายแบบ Peer
to Peer เป็นลักษณะ
การเชื่อมต่อแบบโครงข่ายโดยตรงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2
เครื่องหรือมากกว่านั้น
เป็นการใช้งานร่วมกันของ wireless adapter cards โดยไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบใช้สายเลยโดยที่เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะมีความเท่าเทียมกัน
สามารถทำงานของตนเองได้และขอใช้บริการเครื่องอื่นได้เหมาะสำหรับการนำมาใช้งานเพื่อจุดประสงค์ในด้านความรวดเร็วหรือติดตั้งได้โดยง่ายเมื่อไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับ ยกตัวอย่างเช่น ในศูนย์ประชุม, หรือการประชุมที่จัดขึ้นนอกสถานที่
2.2 Client/server (Infrastructure
mode)
ระบบเครือข่ายไร้สายแบบ Client / server หรือ Infrastructure
mode เป็นลักษณะการรับส่งข้อมูลโดยอาศัยAccess
Point (AP) หรือเรียกว่า “Hot spot” ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างระบบเครือข่ายแบบใช้สายกับเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย
(client) โดยจะกระจายสัญญาณคลื่นวิทยุเพื่อ
รับ-ส่งข้อมูลเป็นรัศมีโดยรอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในรัศมีของ AP จะกลายเป็น เครือข่ายกลุ่มเดียวกันทันที โดยเครื่องคอมพิวเตอร์
จะสามารถติดต่อกัน หรือติดต่อกับ Serverเพื่อแลกเปลี่ยนและค้นหาข้อมูลได้
โดยต้องติดต่อผ่านAP เท่านั้น ซึ่ง AP 1 จุด สามารถให้บริการเครื่องลูกข่ายได้ถึง 15-50อุปกรณ์ ของเครื่องลูกข่าย
เหมาะสำหรับการนำไปขยายเครือข่ายหรือใช้ร่วมกับระบบเครือข่ายแบบใช้สายเดิมในออฟฟิต,ห้องสมุด หรือในห้องประชุม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น
2.3 Multiple access points and roaming
โดยทั่วไปแล้ว
การเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ กับ Access
Point ของเครือข่ายไร้สายจะอยู่ในรัศมีประมาณ 500 ฟุต ภายในอาคาร และ 1000 ฟุต
ภายนอกอาคาร หากสถานที่ที่ติดตั้งมีขนาดกว้าง มากๆ เช่นคลังสินค้า
บริเวณภายในมหาวิทยาลัย สนามบิน จะต้องมีการเพิ่มจุดการติดตั้ง AP ให้มากขึ้น เพื่อให้การรับส่งสัญญาณในบริเวณของเครือข่ายขนาดใหญ่
เป็นไปอย่างครอบคลุมทั่วถึง
2.4 Use of an Extension Point
กรณีที่โครงสร้างของสถานที่ติดตั้งเครือข่ายแบบไร้สายมีปัญหาผู้ออกแบบระบบอาจจะใช้
Extension Points ที่มีคุณสมบัติเหมือนกับ Access Point แต่ไม่ต้องผูกติดไว้กับเครือข่ายไร้สาย
เป็นส่วนที่ใช้เพิ่มเติมในการรับส่งสัญญาณ
2.5 The Use of Directional Antennas
ระบบแลนไร้สายแบบนี้เป็นแบบใช้เสาอากาศในการรับส่งสัญญาณระหว่างอาคารที่อยู่ห่างกัน
โดยการติดตั้งเสาอากาศที่แต่ละอาคาร เพื่อส่งและรับสัญญาณระหว่างกัน
เครือข่ายไร้สายมาตรฐาน IEEE 802.11
ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2540 โดยสถาบัน IEEE (The Institute of Electronics and Electrical Engineers) ซึ่งมีข้อกำหนดระบุไว้ว่า
ผลิตภัณฑ์เครือข่ายไร้สายในส่วนของ PHY Layer นั้นมีความสามารถในการรับส่งข้อมูลที่ความเร็ว
1, 2, 5.5, 11 และ 54
เมกะบิตต่อวินาที โดยมีสื่อนำสัญญาณ 3ประเภทให้เลือกใช้งานอันได้แก่
คลื่นวิทยุย่านความถี่ 2.4 กิกะเฮิรตซ์, 2.5 กิกะเฮิรตซ์และคลื่นอินฟาเรด ส่วน.ในระดับชั้นMAC Layer นั้นได้กำหนดกลไกของการทำงานแบบ CSMA/CA (Carrier Sense Multiple Access/Collision Avoidance) ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ
CSMA/CD (Collision Detection) ของมาตรฐาน IEEE 802.3 Ethernet ซึ่งนิยมใช้งานบนระบบเครือข่ายแลนใช้สาย
โดยมีกลไกในการเข้ารหัสข้อมูลก่อนแพร่กระจายสัญญาณไปบนอากาศ
พร้อมกับมีการตรวจสอบผู้ใช้งานอีกด้วย
มาตรฐาน IEEE 802.11
ในยุคเริ่มแรกนั้นให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ค่อนข้างต่ำ ทั้งไม่มีการรับรองคุณภาพของการให้บริการที่เรียกว่าQoS (Quality of Service) ซึ่งมีความสำคัญในสภาพแวดล้อมที่มีแอพพลิเคชันหลากหลายประเภทให้ใช้
การสร้างระบบเครือข่ายให้สร้างสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
การเชื่อมโยงโดยตรงด้วยเกตเวย์เป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เข้ากับ Backbone ของอินเตอร์เน็ต โดยผ่านเกตเวย์ (Gateway) หรือ IP Router สายสื่อสารความเร็วสูงมาก
มักใช้กับองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงมาก การเชื่อมโยงต่อ
ผ่านInternet Service Providers(ISP)เป็นการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์
เข้าสู่อินเตอร์เน็ตโดยผ่านบริษัทผู้ให้บริการจัดสรรการเชื่อมโยง
รูปแบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบใช้สาย (Wire Internet)
1. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตรายบุคคล
(Individual Connection) การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตรายบุคคล คือ
การเชื่อมต่อ
อินเตอร์เน็ตจากที่บ้าน (Home user) ซึ่งยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ผู้ใช้ต้องสมัครเป็นสมาชิกกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตก่อน
จากนั้นจะได้เบอร์โทรศัพท์ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต รหัสผู้ใช้ (User name) และรหัสผ่าน(Password) ผู้ใช้จะเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตได้โดยใช้โมเด็มที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้หมุนไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ให้
บริการอินเตอร์เน็ต จากนั้นจึงสามารถใช้ งานอินเตอร์เน็ตได้
องค์ประกอบของการใช้อินเตอร์เน็ตรายบุคคล
1. โทรศัพท์
2. เครื่องคอมพิวเตอร์
3. ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
ซึ่งจะให้เบอร์โทรศัพท์ รหัสผู้ใช้และรหัสผ่าน
4. โมเด็ม (Modem)
2. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบองค์กร
(Corporate Connection) การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบองค์กรนี้จะพบได้ทั่วไปตามหน่วยงานต่างๆ
ทั้งภาครัฐและเอกชน หน่วยงานต่างๆ เหล่านี้จะมีเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Network : LAN) เป็นของตัวเอง ซึ่งเครือข่าย LAN นี้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา ผ่านสายเช่า (Leased line) ดังนั้น
บุคลากรในหน่วยงานจึงสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา การใช้อินเตอร์เน็ตผ่านระบบ
LAN ไม่มีการสร้างการเชื่อมต่อ(Connection) เหมือนผู้ใช้รายบุคคลที่ยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต
1. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สายผ่านเครื่องโทรศัพท์บ้านเคลื่อนที่
PCT เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก (Note book) และคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Pocket PC) ผู้ใช้จะต้องมี โมเด็มชนิด PCMCIA ของ PCT ผู้ใช้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตไร้ได้
ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑลได้
2. การใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือโดยตรง
(Mobile Internet)
1. WAP (Wireless Application
Protocol) เป็นโปรโตคอลมาตรฐานของอุปกรณ์ไร้สายที่ใช้งานบนอินเตอร์เน็ต ใช้ภาษา WML (Wireless Markup Language) ในการพัฒนาขึ้นมา
แทนการใช้ภาษา HTML (Hypertext markup Language) ที่พบใน www โทรศัพท์มือถือปัจจุบัน หลายๆยี่ห้อ จะสนับสนุนการใช้ WAP เพื่อท่องอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่ 9.6 kbps และการใช้ WAP ท่องอินเตอร์เน็ตนั้น
จะมีการคิดอัตราค่าบริการเป็นนาทีซึ่งยังมีราคาแพง
2. GPRS (General Packet Radio
Service) เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้โทรศัพท์มือถือสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตด้วยความเร็วสูง
และสามารถส่งข้อมูลได้ในรูปแบบของมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วย ข้อความ ภาพกราฟิก
เสียง และวีดิโอ ความเร็วในการรับส่งข้อมูลด้วยโทรศัพท์ที่สนับสนุน GPRS อยู่ที่ 40 kbps ซึ่งใกล้เคียงกับโมเด็มมาตรฐานซึ่งมีความเร็ว
56 kbps อัตราค่าใช้บริการคิดตามปริมาณข้อมูลที่รับ-ส่ง
ตามจริง ดังนั้นจึงทำให้ประหยัดกว่าการใช้ WAP และยังสื่อสารได้รวดเร็วขึ้นด้วย
3. โทรศัพท์ระบบ CDMA (Code Division Multiple Access) ระบบ CDMA นั้น สามารถรองรับการสื่อสารไร้สายความเร็วสูงได้เป็นอย่างดี
โดยสามารถทำการรับส่งข้อมูลได้สูงสุด 153 Kbpsซึ่งมากกว่าโมเด็มที่ใช้กับโทรศัพท์ตามบ้านที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เพียง56 kbps นอกจากนี้ ระบบ CDMA
ยังสนับสนุนการส่งข้อมูลระบบมัลติมีเดียได้ด้วย
4. เทคโนโลยี
บลูทูธ (Bluetooth Technology) เทคโนโลยีบลูทูธถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับการสื่อสารแบบไร้สาย
โดยใช้หลักการการส่งคลื่นวิทยุ ที่อยู่ในย่านความถี่ระหว่าง 2.4 - 2.4 GHz ในปัจจุบันนี้ได้มีการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้เทคโนโลยีไร้สายบลูธูทเพื่อใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายๆชนิด
เช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์พ็อคเก็ตพีซี
3. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วยโน้ตบุ๊ก(Note book) และ เครื่องปาล์ม (Palm)
ผ่าน โทรศัพท์มือถือที่สนับสนุนระบบ GPRS
โทรศัพท์มือถือที่สนับสนุน
GPRS จะทำหน้าที่เสมือนเป็นโมเด็มให้กับอุปกรณ์ที่นำมาพ่วงต่อ ไม่ว่าจะเป็น
Note Book หรือ Palm และในปัจจุบันบริษัทที่ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้มีการผลิต
SIM card ที่เป็น Internet SIM สำหรับโทรศัพท์มือถือเพื่อให้สามารถติดต่อกับอินเทอร์เน็ตได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น









ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น