วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561

กรณีศึกษา ครั้งที่ 1 โครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศ


กรณีศึกษา ครั้งที่ 1 โครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศ


สมาชิก
1นางสาวกัญญาณัฐ     โสมาพงศ์          58127328011
2นางสาวศันสนีย์         แสงประเสริฐ    58127328018
3นายนพรัตน์               แดงหล่ำ            58127328031
4นางสาวเกศนีย์           แก้วศรี              58127328035
5นางสาวมณีวรรณ      ตั้งถาวร             58127328037

กลุ่มเลโก้ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในบิลลุนด์ประเทศเดนมาร์กเป็นหนึ่งในผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ที่สุดในโลก ผลิตภัณฑ์หลักของเลโก้เป็นอิฐและตัวเลขที่เด็ก ๆ เล่นมานานหลายชั่วอายุคน บริษัท เดนมาร์กมีประสบการณ์การเติบโตอย่างยั่งยืนตั้งแต่ก่อตั้งในปีพ. 2475 และส่วนใหญ่ของประวัติศาสตร์โรงงานผลิตรายใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศเดนมาร์ก ในปี 2546 เลโก้กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่ยากลำบากจากผู้เลียนแบบและผู้ผลิตของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มนี้จึงตัดสินใจที่จะเริ่มดำเนินการปรับโครงสร้างที่ค่อยๆดำเนินไปเรื่อย ๆ ในวันนี้ ในปีพ. 2549 บริษัท ได้ประกาศว่าการผลิตส่วนใหญ่จะเป็น บริษัท ภายนอกที่ดำเนินธุรกิจด้านการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของ Flextronics ซึ่งมีโรงงานอยู่ในเม็กซิโกฮังการีและสาธารณรัฐเช็ก การตัดสินใจผลิต outsource เป็นผลโดยตรงจากการวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของ Lego เพื่อลดต้นทุนแรงงานกระบวนการเข้มข้นด้วยตนเองถูก outsource ซึ่งทำให้แรงงานที่มีทักษะสูงใน Billund มีเพียงคนเดียวเท่านั้น พนักงาน Lego ลดลงเรื่อย ๆ จาก 8,300 คนในปี 2546 เป็นประมาณ 4,200 คนในปี 2553 นอกจากนี้การผลิตต้องย้ายไปอยู่ใกล้กับตลาดธรรมชาติ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเลโก้จึงเปลี่ยนจาก บริษัท ผู้ผลิตไปเป็น บริษัท ที่มุ่งเน้นตลาดซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดโลกได้อย่างรวดเร็ว ขั้นตอนการปรับโครงสร้างของ Lego ควบคู่ไปกับการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้ บริษัท มีการขยายงานในต่างประเทศและทำให้พนักงานของ บริษัท มีความเป็นสากลมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายของห่วงโซ่อุปทานและทรัพยากรบุคคลของ บริษัท ห่วงโซ่อุปทานต้องได้รับการปรับรื้อปรับระบบเพื่อลดการผลิตโดยไม่ลดคุณภาพ การวางแผนด้านโลจิสติกส์ที่ดีขึ้นทำให้เลโก้สามารถทำงานใกล้ชิดกับผู้ค้าปลีกซัพพลายเออร์และ บริษัท ผู้รับเหมาช่วงใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ในเวลาเดียวกันฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) จำเป็นต้องมีบทบาทเชิงกลยุทธ์มากขึ้นภายใน บริษัท ตอนนี้ HR เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินนโยบายที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาและคัดเลือกพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดจากความหลากหลายของภูมิหลังทางวัฒนธรรม การปรับการดำเนินการของ บริษัท เพื่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพพร้อมด้วยความสามารถในการจัดการอัจฉริยะทางธุรกิจซึ่งจะช่วยให้ฝ่ายบริหารสามารถคาดการณ์และวางแผนได้ดีขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาเลโก้เลือกที่จะย้ายไปใช้ซอฟต์แวร์ SAP Business Suite SAP AG ซึ่งเป็น บริษัท สัญชาติเยอรมันที่เชี่ยวชาญด้านโซลูชันซอฟต์แวร์ระดับองค์กรเป็นหนึ่งใน บริษัท ซอฟต์แวร์ชั้นนำของโลก ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของเอสเอพีประกอบด้วยแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับทุกฟังก์ชั่นและการปฏิบัติที่สำคัญของ บริษัท เลโก้เลือกใช้ SAP's Supply Chain Management (SCM), Product Lifecycle Management (PLM) และโมดูล Enterprise Resources Planning (ERP) โมดูล SCM มีคุณลักษณะที่สำคัญเช่นการตรวจสอบและวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทานตลอดจนการคาดการณ์การวางแผนและการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง โมดูล PLM ช่วยให้ผู้จัดการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการและระบบการพัฒนา โมดูล ERP ประกอบด้วย โมดูลช่วยให้ผู้จัดการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการและระบบการพัฒนา โมดูล ERP ประกอบด้วยโปรแกรมประยุกต์การจัดการทุนมนุษย์ (HCM) สำหรับการบริหารและพัฒนาบุคลากร ชุดธุรกิจของ SAP ใช้สถาปัตยกรรมแบบ client-server แบบยืดหยุ่นซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับสถาปัตยกรรมที่ให้บริการใหม่ (SOA) ที่มีอยู่ในเวอร์ชันล่าสุดของซอฟต์แวร์ ในส่วนแรกอินเทอร์เฟซไคลเอ็นต์ - อินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI) ชนิดเบราว์เซอร์ที่ทำงานบนแล็ปท็อปเดสก์ท็อปหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่จะส่งคำขอของผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์แอ็พพลิเคชัน เซิร์ฟเวอร์แอ็พพลิเคชัน (ชั้นที่สองในระบบจะรับและประมวลผลคำขอของลูกค้า ในทางกลับกันเซิร์ฟเวอร์แอ็พพลิเคชันเหล่านี้จะส่งคำขอประมวลผลไปยังระบบฐานข้อมูล (ชั้นที่สามซึ่งประกอบด้วยฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์อย่างน้อยหนึ่งฐาน ชุดธุรกิจของ SAP สนับสนุนฐานข้อมูลจากผู้ขายรายต่างๆรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอโดย Oracle, Microsoft, MySQL และอื่น ๆ ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ประกอบด้วยตารางที่จัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเลโก้การปฏิบัติงานประจำวันโซ่อุปทานและพนักงานหลายพันคน ผู้จัดการสามารถใช้เครื่องมือสืบค้นข้อมูลของ SAP เพื่อขอรับรายงานจากฐานข้อมูลได้เนื่องจากไม่ต้องใช้ทักษะทางเทคนิคใด ๆ นอกจากนี้สถาปัตยกรรมแบบกระจายช่วยให้ผู้มีอำนาจสามารถเข้าถึงระบบฐานข้อมูลได้โดยตรงจากสถานที่ต่างๆของ บริษัท รวมทั้งในยุโรปอเมริกาเหนือและเอเชีย โมดูล ERP-HCM ของ SAP ประกอบด้วยคุณลักษณะขั้นสูงเช่น "Talent Manager" รวมถึงการจัดการการบริหารงานของพนักงานการรายงานและการจัดการด้านการเดินทางและเวลา คุณลักษณะเหล่านี้ช่วยให้บทที่ 6 ฐานข้อมูลของ Business Intelligence: ฐานข้อมูลและการจัดการข้อมูล 281 246-285 Ch6 Global.indd 281 2/19/2015 11:56:38 AM เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ Lego เพื่อเลือกผู้สมัครที่ดีที่สุดกำหนดเวลาการฝึกอบรมและสร้าง แผนการกระตุ้นเพื่อรักษาไว้ นอกจากนี้ยังสามารถรวมการวัดประสิทธิภาพและทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้มทรัพยากรบุคคลได้แบบเรียลไทม์ การใช้คุณลักษณะขั้นสูงเหล่านี้ร่วมกับเครื่องมือจากผู้จัดจำหน่ายซอฟต์แวร์รายอื่นผู้บริหารของ Lego สามารถติดตามโอกาสในการเป็นผู้นำของพนักงานพัฒนาอาชีพและคาดการณ์การสรรหาพนักงานใหม่ด้วยทักษะบางอย่าง การลงทุนที่เลโก้กรุ๊ปทำขึ้นในระบบข้อมูลและการออกแบบใหม่ทางธุรกิจได้ผุดขึ้นมาอย่างดี ในปี 2556 กลุ่ม บริษัท มียอดขายเพิ่มขึ้น 11% เป็น 3,403 ล้านยูโรเทียบกับ 3,103 ล้านยูโรในปีก่อนหน้า กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
 10% เป็น 1,118 ยูโร พนักงานที่ทำงานเต็มเวลาเพิ่มขึ้นเป็น 11,755 เนื่องจาก บริษัท ขยายการผลิตในเอเชีย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2014 รายได้เพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วและกำไรเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2013 สะท้อนถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นในการพัฒนา บริษัท ระดับโลกและการลงทุนที่สำคัญใน ระบบข้อมูลทั่วโลกทั้งในห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่การกระจายกลุ่มเลโก้ในปี 2557 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งในระยะยาวในทุกภูมิภาค ในยุโรปอเมริกาและเอเชีย,ยอดขายเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักมานานกว่าห้าปีแม้ว่าข้อเท็จจริงที่ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในโลก (2008-2013) ทำให้ยอดขายทั่วโลกลดลง ในภูมิภาคเอเชียการเติบโตของยอดขายของเลโก้แตกต่างกันไปในแต่ละตลาด การเติบโตของยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคของจีนที่มีมากกว่า 50% นับเป็นความสำคัญที่สุดในภูมิภาคนี้ ซึ่งจะสนับสนุนความทะเยอทะยานของเลโก้กรุ๊ปในการทำให้ บริษัท เป็นสากลมากยิ่งขึ้นและทำให้เอเชียเป็นผู้มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตในอนาคต ในช่วงเดือนเมษายน พ.. 2557 เลโก้กรุ๊ปได้เปิดโรงงานแห่งแรกในประเทศจีนซึ่งตั้งอยู่ในเจียซิ่งและเป็นสำนักงานแห่งใหม่ในเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าสำนักงานใหญ่ทั่วโลกของกลุ่มเลโก้ ผู้บริหารของเลโก้เชื่อว่ามีศักยภาพมากในเอเชียและพวกเขากำลังจะย้ายไปตั้งอยู่ใกล้กับลูกค้าชาวเอเชีย ผู้บริหารเลโก้เชื่อว่ามีศักยภาพมหาศาลในเอเชียและตัดสินใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดเอเชียและสร้างศักยภาพในภูมิภาคนี้ โรงงานแห่งใหม่และสำนักงานแสดงการขยายตัวทางกายภาพของเลโก้ในภูมิภาคนี้อย่างมีนัยสำคัญ ตามที่ผู้บริหารรวมกับสำนักงานที่มีอยู่ในสิงคโปร์สำนักงานเซี่ยงไฮ้และโรงงานแห่งใหม่นี้มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์

การทำงานที่จะตั้งอยู่ใกล้กับลูกค้าของพวกเขาเช่นเดียวกับเด็กและผู้ปกครองในประเทศจีนและเอเชีย การตัดสินใจที่จะวางโรงงานเลโก้ในประเทศจีนเป็นผลโดยตรงจากความปรารถนาของเลโก้กรุ๊ปในการผลิตที่วางใกล้กับตลาดหลัก ปรัชญาเดียวกันนี้นำไปสู่การขยายโรงงานเลโก้ในสาธารณรัฐเช็กและเปิดโรงงานใหม่ทั้งหมดใน Nyiregyhaza ประเทศฮังการีในเดือนมีนาคม 2014 โรงงานเหล่านี้พร้อมโรงงานแม่ในเดนมาร์กให้บริการในตลาดยุโรป เพื่อรองรับอเมริกาได้เร็วขึ้นและมีผลิตภัณฑ์ที่ปรับแต่งเอง บริษัท จึงขยายโรงงาน Lego ในเมือง Monterrey ประเทศเม็กซิโก ผู้บริหารเชื่อว่าแนวทางทั่วโลกสำหรับระบบข้อมูลและสิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิตช่วยให้ บริษัท สามารถจัดส่งผลิตภัณฑ์เลโก้ไปยังร้านค้าปลีกและเพื่อเด็ก ๆ ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วโดยนำเสนอบริการระดับโลกแก่ผู้บริโภค ในปี 2014 นอกเหนือจากการเติบโตในตลาดต่างๆภาพยนตร์เลโก้ยังได้รับการปล่อยตัวออกสู่ความคิดเห็นในเชิงบวกอย่างท่วมท้นการเสริมสร้างแบรนด์ของ บริษัท และช่วยให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ตามธีมของภาพยนตร์ได้ เลโก้กรุ๊ปมีเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดปีพ. 2558 และนอกเหนือจากการใช้ความยืดหยุ่นขององค์กรและแนวคิดที่ได้ทำมาตลอดหลายปี บริษัท กำลังตอบสนองต่อลูกค้าและออกชุดของเล่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นชุดรวมทั้ง Bionicle ชุดชุดป้องกัน นอกจากนี้ บริษัท ยังได้เปิดตัวสำนักงานแห่งใหม่ที่มีพนักงาน 120 คนและอีก 80 แห่งที่จะเข้ามาในปีพ. 2558 พร้อมกับสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เป็นนวัตกรรมใหม่โดยไม่ต้องมีพื้นที่ทำงานที่ได้รับมอบหมายและเน้นความคิดสร้างสรรค์ผ่านกิจวัตรที่เข้มงวด เช่นการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคเอเชียสำนักงานแห่งใหม่นี้แสดงถึงความพยายามในการสร้างเครือข่ายทั่วโลกพร้อมสำนักงานและพนักงานทั่วโลกเพื่อเข้าถึงครอบครัวและเด็กที่มีศักยภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้น พนักงานทั่วโลกเข้าถึงครอบครัวและเด็กที่มีศักยภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จนถึงขณะนี้เลอโก้ได้สร้างตัวตนที่น่าประทับใจทั่วโลกโดยการบล็อก
CASE STUDY QUESTIONS
6-13 Explain the role of the database in SAP’s three tier system.
6-14 Explain why distributed architectures are flexible.
6-15 Identify some of the business intelligence features included in SAP’s business software suite.
6-16 What are the main advantages and disadvantages of having multiple databases in a distributed architecture? Explain.
คำถามการศึกษากรณี
1. อธิบายบทบาทของฐานข้อมูลในระบบสามชั้นของ SAP
ตอบ SAP มีหลาย Module มีหน้าที่ที่ต่างกัน แต่ทำงานร่วมกัน เป็นหนึ่งเดียว (แต่ละ Module คือแต่ละส่วนของธุรกิจ) ผลิตภัณฑ์ SAP มี 2 กลุ่ม คือ 1. SAP R/2 ใช้สำหรับเมนเฟรม 2. SAP R/3 ใช้กับระบบ Client/server
SAP เป็นบริษัทของ German แต่แยกการทำงานเป็น บริษัทย่อย, หุ้นส่วน, และ พันธมิตรทางธุรกิจทั่วโลกผลิตภัณฑ์ของเอสเอพีเน้นไปที่ ERP ซึ่งบริษัทเป็นผู้บุกเบิก. ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทคือ SAP R/3 โดยตัว “R” หมายถึง “realtime data processing” (การประมวลผลข้อมูลแบบเวลาจริง) ส่วน “3 หมายถึง สถาปัตยกรรมโปรแกรมแบบ 3 ชั้น (three-tier) : ฐานข้อมูล, แอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์ และ ไคลเอนต์ (SAPgui). โดยผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนหน้า SAP R/3 คือรุ่น R/2
ตามรายงาน มีการติดตั้งเอสเอพีมากกว่า 91,500 ชุดในมากกว่า 28,000 บริษัท. คนมากกว่า 12 ล้านคนในมากกว่า 120 ประเทศ ใช้ผลิตภัณฑ์ของเอสเอพี
2. อธิบายว่าทำไมสถาปัตยกรรมแบบกระจายจึงมีความยืดหยุ่น
ตอบ ระบบสถาปัตยกรรมแบบกระจายคือระบบซอฟต์แวร์ซึ่งส่วนประกอบต่าง ๆ ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่ในเครือข่ายจะสื่อสารและประสานงานการกระทำของตนโดยการส่งข้อความ ส่วนประกอบโต้ตอบกับแต่ละอื่น ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน ข้อมูลอาจถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์หลายเครื่องตั้งอยู่ในตำแหน่งทางกายภาพเดียวกัน หรืออาจถูกกระจายผ่านเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกัน ฐานข้อมูลแบบกระจายสามารถอยู่บนเซิร์ฟเวอร์เครือข่ายบนอินเทอร์เน็ตบนอินทราเน็ตขององค์กรหรือเครือข่ายเสริมหรือเครือข่ายอื่น ๆ ของ บริษัท เนื่องจากมีการจัดเก็บข้อมูลไว้ในคอมพิวเตอร์หลายเครื่องระบบฐานข้อมูลแบบกระจายจึงสามารถปรับปรุงสมรรถนะของผู้ใช้ปลายทางได้โดยการอนุญาตให้ทำธุรกรรมบนเครื่องจำนวนมากแทนที่จะถูก จำกัด ไว้ ผู้ใช้จากส่วนต่าง ๆ ของโลกอาจเข้าถึงข้อมูลเดียวกัน ดังนั้นจึงมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในแง่ของความพร้อมให้กับผู้ใช้ พวกเขายังธนาคารในการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องเป็นข้อมูลที่ตั้งอยู่ใกล้กับเว็บไซต์ของความต้องการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและระบบฐานข้อมูลตัวเองเป็นแบบขนานทำให้ภาระในฐานข้อมูลที่จะสมดุลระหว่างเซิร์ฟเวอร์ โหลดสูงหนึ่งโมดูลของฐานข้อมูลจะไม่ส่งผลกระทบต่อโมดูลอื่น ๆ ของฐานข้อมูลในฐานข้อมูลแบบกระจาย นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับจุดประสงค์ในการขยายฐานข้อมูลและความโปร่งใสเนื่องจากข้อมูลสามารถถูกตรวจสอบในไซต์ของคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเนื่องจากข้อมูลอาจเก็บไว้ภายในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีอิสระในท้องถิ่นหรือความเป็นอิสระของไซต์ซึ่งแผนกต่าง ๆ สามารถควบคุมข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาได้ (เช่นเดียวกับที่เป็นที่คุ้นเคย) มีความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและอาจเสียค่าใช้จ่ายน้อยลงในการสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่มีพลังของคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ระบบสามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มและลบออกจากฐานข้อมูลแบบกระจายโดยไม่มีผลต่อโมดูล (ระบบ) อื่น ๆ
3. ระบุคุณลักษณะทางธุรกิจบางอย่างที่รวมอยู่ในชุดซอฟต์แวร์ทางธุรกิจของ SAP
ตอบ การจัดการซัพพลายเชน (SCM) การตรวจสอบและวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทานตลอดจนการคาดการณ์การวางแผนและการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง การจัดการวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (PLM) เปิดใช้งานผู้จัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการและระบบการพัฒนา การวางแผนทรัพยากรขององค์กร (ERP) รวมถึงการประยุกต์ใช้การจัดการทุนมนุษย์ (HCM) สำหรับการบริหารและพัฒนาบุคลากร
4. ข้อดีและข้อเสียหลักของการมีฐานข้อมูลหลายฐานในสถาปัตยกรรมแบบกระจายอย่างไร อธิบาย.
ตอบ
ข้อดี
1. ผู้บริหารสามารถใช้เครื่องมือสืบค้นข้อมูลของ SAP เพื่อขอรับรายงานจากฐานข้อมูลได้
2. ช่วยให้ผู้มีอำนาจสามารถเข้าถึงระบบฐานข้อมูลได้โดยตรงจากสถานที่ต่างๆ ของ บริษัท
ข้อเสีย
1. การใช้ระบบฐานข้อมูลมีความซ้ำซ้อนเข้าใจยาก
2. ต้องใช้ผู้ที่มีความเข้าใจเป็นอย่างดีในการวางโครงสร้างระบบ เท่านั้น
3.ผู้ดูแลระบบต้องเก็บข้อมูลของฐานข้อมูลทั้งหมดให้ตรงกันและตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครือข่ายได้รับการกำหนดค่าเพื่อใช้ประโยชน์จากสภาวะแวดล้อมแบบกระจายฐานข้อมูลอย่างเหมาะสมในแง่ของความพร้อมใช้งานและประสิทธิภาพการทำงาน แม้ว่าการสำรองฐานข้อมูลมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในระบบฐานข้อมูลแบบกระจายฐานข้อมูลหลายฐานจะเพิ่มความซับซ้อนในกระบวนการสำรองข้อมูล







วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561

กรณีศึกษา ครั้งที่ 2 โครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศ

กรณีศึกษา ครั้งที่ 2 โครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศ


สมาชิก
1นางสาวกัญญาณัฐ     โสมาพงศ์          58127328011
2นางสาวศันสนีย์         แสงประเสริฐ    58127328018
3นายนพรัตน์               แดงหล่ำ            58127328031
4นางสาวเกศนีย์           แก้วศรี              58127328035
5นางสาวมณีวรรณ      ตั้งถาวร             58127328037

การติดตามตรวจสอบพนักงานบนเครือข่ายไม่ดีหรือไม่ดีธุรกิจ?
อินเทอร์เน็ตกลายเป็นสิ่งที่มีค่ามากเครื่องมือทางธุรกิจ แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวมากสำหรับคนงานในที่ทำงาน พนักงานเสียคุณค่าเวลาของ บริษัท โดยการท่องเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม(Facebook, ช้อปปิ้งกีฬาฯลฯ ), การส่งและรับอีเมลส่วนตัวพูดคุยกับเพื่อนทางออนไลน์แชทและดาวน์โหลดวิดีโอและเพลง ตามไปยัง บริษัท วิจัยด้านไอที Gartner Inc. ซึ่งไม่ใช่งานที่เกี่ยวข้องผลการท่องอินเทอร์เน็ตในประมาณ 40% การสูญเสียผลผลิตในแต่ละปีสำหรับธุรกิจอเมริกันโพลล่าสุดของ Gallup พบว่าค่าเฉลี่ยพนักงานใช้เวลามากกว่า 75 นาทีต่อวันโดยใช้คอมพิวเตอร์สำนักงานสำหรับกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจที่แปลเป็นการสูญเสียรายปีของ $ 6,250 ต่อปี,ต่อพนักงาน บริษัท ขนาดกลางเฉลี่ย 500คาดว่าพนักงานจะเสียเงินจำนวน 3.25 ล้านเหรียญสูญเสียผลผลิตเนื่องจากการใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่ผิด
หลาย บริษัท เริ่มเฝ้าติดตามแล้วพนักงานใช้อีเมลและอินเทอร์เน็ตบางครั้งไม่มีความรู้ เครื่องมือหลายอย่างพร้อมใช้งานแล้วเพื่อจุดประสงค์นี้รวมทั้ง SONAR, SpectorCNE Investigator, iSafe, OsMonitor, IMonitor, การทำงานผู้ตรวจสอบ, Spy สุทธิ, Activity Monitor, Mobistealth,และ Spytech ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยให้ บริษัท ต่างๆบันทึกการค้นหาออนไลน์ตรวจสอบการดาวน์โหลดไฟล์และอัปโหลดบันทึกการกดแป้นพิมพ์เก็บแท็บในอีเมลสร้างสคริปชันของการแชทหรือใช้หน้าจอบางหน้าของภาพที่แสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ข้อความโต้ตอบแบบทันที,การรับส่งข้อความตัวอักษรและการตรวจสอบสื่อสังคมออนไลน์ยังเพิ่มขึ้น แม้ว่า บริษัท ของสหรัฐฯจะมีสิทธิตามกฎหมายในการตรวจสอบพนักงานอินเทอร์เน็ตและe-mail กิจกรรมขณะที่พวกเขาอยู่ในที่ทำงานคือการตรวจสอบดังกล่าวผิดจรรยาบรรณหรือเป็นธุรกิจที่ดีเพียงอย่างเดียว?
ผู้จัดการกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียเวลาและการทำงานของพนักงานเมื่อพนักงานกำลังมุ่งเน้นเกี่ยวกับส่วนตัวมากกว่าธุรกิจของ บริษัท เกินไปเวลามากในธุรกิจส่วนตัวแปลเป็นสูญหายรายได้ พนักงานบางคนอาจเป็นเวลาเรียกเก็บเงินพวกเขาใช้เวลาไล่ตามความสนใจส่วนตัวออนไลน์ไปลูกค้าจึงชาร์จไฟพวกเขามากเกินไป
ถ้าการเข้าชมส่วนบุคคลในเครือข่ายของ บริษัท มีมากเกินไปสูงนอกจากนี้ยังสามารถอุดตันเครือข่ายของ บริษัท ได้อีกด้วยการดำเนินธุรกิจที่ถูกกฎหมายไม่สามารถทำได้Procter & Gamble (P & G) พบว่าโดยเฉลี่ยวันพนักงานฟังเพลงถึง 4,000 ชั่วโมงเพลงใน Pandora และดู 50,000 ห้านาทีวิดีโอ YouTube กิจกรรมเหล่านี้เกี่ยวข้องกับสตรีมมิ่งข้อมูลจำนวนมากซึ่งชะลอตัวลงของ P & G การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
เมื่อพนักงานใช้ e-mail หรือเว็บ(รวมถึงเครือข่ายทางสังคมที่สถานประกอบการนายจ้างหรือกับอุปกรณ์นายจ้างสิ่งที่พวกเขาทำ,รวมถึงสิ่งที่ผิดกฎหมายดำเนินการของ บริษัทชื่อดังนั้นนายจ้างสามารถตรวจสอบได้และต้องรับผิด การจัดการในหลาย บริษัท กลัวการเหยียดผิวเรื่องเพศอย่างชัดแจ้งหรือเรื่องอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นวัสดุที่ไม่เหมาะสมเข้าถึงหรือซื้อขายโดยพวกเขาพนักงานอาจทำให้เกิดการประชาสัมพันธ์ที่ไม่พึงประสงค์และแม้คดีสำหรับ บริษัท ประมาณ 27 เปอร์เซ็นต์ของ Fortune 500 องค์กรต้องปกป้องตัวเองต่อต้านการเรียกร้องการล่วงละเมิดทางเพศเกิดจากอีเมลที่ไม่เหมาะสม แม้ว่าจะมีพบว่า บริษัท ไม่รับผิดชอบต่อการตอบสนองต่อคดีอาจเรียกเก็บเงินตามกฎหมายได้มาก ไซแมนเทค2011 Social Media Protection Flash Poll พบว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีโดยเฉลี่ยสำหรับ บริษัท ที่มีสังคมอุบัติเหตุทางสื่อวิ่งมากกว่า 650,000 เหรียญ
บริษัท ยังกลัวการรั่วไหลของข้อมูลลับข้อมูลและความลับทางการค้าผ่านทาง e-mail หรือสังคมออนไลน์ผลการสำรวจโดยAmerican Management Association และ ePolicyสถาบันพบว่าร้อยละ 14 ของพนักงานสำรวจยอมรับว่าพวกเขาได้ส่งเป็นความลับหรืออาจอีเมลที่น่าอับอายของ บริษัท ให้กับบุคคลภายนอก
บริษัท ในสหรัฐอเมริกามีสิทธิ์ตามกฎหมายในการตรวจสอบสิ่งที่พนักงานทำกับอุปกรณ์ของ บริษัทในช่วงเวลาทำการ คำถามคือว่า  การเฝ้าระวังทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการรักษาสถานที่ทำงานที่มีประสิทธิภาพและเป็นบวกบาง บริษัท พยายามห้ามกิจกรรมส่วนตัวทั้งหมดในเครือข่ายองค์กร - ความอดทนเป็นศูนย์ บล็อกอื่น ๆการเข้าถึงพนักงานของเว็บไซต์หรือเว็บไซต์ทางสังคมที่เฉพาะเจาะจง,ตรวจสอบอย่างใกล้ชิดข้อความอีเมลหรือ จำกัด บุคคลเวลาบนเว็บ
ตัวอย่างเช่น P & G บล็อก Netflix และได้ถามพนักงานเพื่อ จำกัด การใช้ Pandora ยังช่วยให้การดู YouTube บางส่วนและไม่ได้เป็นการบล็อกการเข้าถึงไปยังเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเนื่องจากเจ้าหน้าที่ใช้พวกเขาเพื่อแคมเปญการตลาดดิจิทัล Ajax Boiler ในซานตาAna, California ใช้ซอฟต์แวร์จาก SpectorSoft Corporation ที่บันทึกพนักงานทุกคนในเว็บไซต์เวลาที่ใช้ในแต่ละไซต์และอีเมลทั้งหมดที่ส่งบริการด้านการเงินและการลงทุน บริษัท Wedbush บริษัท หลักทรัพย์ดำเนินการตรวจสอบอีเมลรายวันการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีและกิจกรรมเครือข่ายทางสังคมของ 1,000 คนขึ้นไปพนักงาน ซอฟต์แวร์ตรวจสอบอีเมลของ บริษัทflag บางข้อความและคำหลักภายในข้อความสำหรับการตรวจสอบเพิ่มเติม
บริษัท หลายแห่งได้ไล่ออกพนักงานที่ก้าวออกไปนอกขอบเขต การสำรวจ Proofpointพบว่าหนึ่งในห้า บริษัท ขนาดใหญ่ของสหรัฐยิงพนักงานละเมิดนโยบายอีเมลในอดีตปีในบรรดาผู้จัดการที่ขับไล่พนักงานมาให้อินเทอร์เน็ตใช้ผิดวัตถุประสงค์ส่วนใหญ่ได้เนื่องจากอีเมลของพนักงานมีความละเอียดอ่อนเป็นความลับ,หรือข้อมูลที่น่าอับอาย
ไม่มีทางออกที่ปราศจากปัญหา แต่มีที่ปรึกษามากมายเชื่อว่า บริษัท ควรเขียนนโยบายของ บริษัทบนอีเมลของพนักงานสื่อสังคมออนไลน์และการใช้เว็บนโยบายควรรวมถึงกฎพื้นฐานอย่างชัดเจนที่รัฐตามตำแหน่งหรือระดับภายใต้สถานการณ์ใดพนักงานสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของ บริษัท สำหรับ e - mail,การเขียนบล็อกหรือการท่องเว็บ นโยบายควรมีแจ้งให้พนักงานทราบว่ากิจกรรมเหล่านี้เป็นอย่างไรติดตามและอธิบายว่าเหตุใด
ขณะนี้ IBM มี "หลักเกณฑ์ด้านโซเชียลคอมพิวเตอร์ที่ครอบคลุมกิจกรรมของพนักงานในเว็บไซต์เช่น Facebookและ Twitter แนวทางนี้กระตุ้นให้พนักงานไม่ปกปิดอัตลักษณ์ของตนเพื่อปกปิดอัตลักษณ์ของตนเพื่อระลึกถึงสิ่งเหล่านั้นรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาเผยแพร่และเพื่อละเว้นจากการอภิปรายหัวข้อที่มีการโต้เถียงกันไม่เกี่ยวข้องกับบทบาท IBM ของพวกเขา
กฎควรปรับให้เหมาะสมกับธุรกิจเฉพาะความต้องการและวัฒนธรรมองค์กร ตัวอย่างเช่น,บริษัท การลงทุนจะต้องอนุญาตให้หลาย บริษัท ของพวกเขาพนักงานเข้าถึงไซต์การลงทุนอื่น ๆบริษัท ขึ้นอยู่กับข้อมูลอย่างกว้างขวางการแบ่งปันนวัตกรรมและความเป็นอิสระได้มากดีพบว่าการตรวจสอบสร้างปัญหามากขึ้นกว่าจะแก้ได้


แหล่งที่มา: "บริษัท ควรตรวจสอบสังคมของพนักงาน 'หรือไม่สื่อ? "Wall Street Journal, 11 พฤษภาคม 2014; Rhodri Marsden,"การตรวจสอบความหมั่นไส้ในที่ทำงานอาจเป็นเรื่องเสี่ยงบริสเบนเวลา 30 มีนาคม 2014; Donna Iadipaolo "บุกรุกความเป็นส่วนตัวของคุณตอนนี้เป็นบรรทัดฐานในที่ทำงาน "Philly.com, April 28, 2014;"Office Slacker Stats" www.staffmonitoring.com ซึ่งเข้าถึงได้ในวันที่ 1 พฤษภาคม2014; "Office Productivity Loss" เรียกค้น Staffmonitoring.com1 พฤษภาคม 2014; "ความเป็นส่วนตัวในที่ทำงานและการตรวจสอบพนักงาน"สำนักหักบัญชีความเป็นส่วนตัวมิถุนายน 2013; ซามูเอลกรีนการ์ด,"การใช้งานสมาร์ทโฟนจะทำให้ประสิทธิภาพการผลิตลดลง" CIO Insight,11 มีนาคม 2013; Emily Glazer, "P & G Curbs Employees 'Internetใช้ "The Wall Street Journal, 4 เมษายน 2012; และ David L. Barron,"สื่อสังคมออนไลน์พรมแดนสำหรับข้อพิพาทเกี่ยวกับพนักงานพื้นฐานเดือนมกราคม 19, 2012
คำถามการศึกษากรณี
1.  ผู้จัดการควรตรวจสอบอีเมลของพนักงานและการใช้อินเทอร์เน็ตหรือไม่?
ตอบ  ควร เพราะ ผู้จัดการสามารถตรวจสอบอีเมลและการใช้งานอินเทอร์เน็ตของพนักงาน เนื่องจากการวิจัยพบว่าประมาณ พนักงานที่มีบัญชี Facebook มักใช้งานในช่วงเวลาทำงาน นอกจากนี้โดยเฉลี่ยของพนักงานมักเรียกดูเว็บในที่ทำงาน และรับหรือส่งอีเมลส่วนบุคคลในที่ทำงานทั้งหมดนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อบริษัท ซึ่งได้แก่ :  1.สร้างปัญหาทางธุรกิจที่ร้ายแรง
2.การหยุดชะงักการทำงานที่ได้รับผิดชอบ
3.ผู้จัดการต้องกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียเวลาและการทำงานของพนักงาน เมื่อพนักงานมุ่งเน้นเรื่องส่วนตัวมากกว่าธุรกิจของ บริษัท
4.การใช้เวลาส่วนตัวมากเกินไปในที่ทำงานจะทำให้เสียรายได้
5.พนักงานสามารถส่งอีเมลบริษัท ที่เป็นความลับหรือไม่เหมาะสมให้กับบุคคลภายนอก2. อธิบายนโยบายอีเมลและการใช้เว็บอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับ บริษัท
2. อธิบายนโยบายอีเมลและการใช้เว็บที่มีประสิทธิภาพสำหรับคำตอบของบริษัท
ตอบ  อีเมลและนโยบายการใช้เว็บที่มีประสิทธิภาพสามารถระบุขั้นตอนและความรับผิดชอบที่เฉพาะเจาะจงโดยระบุว่าผู้ใช้และหน่วยงานใดสามารถแบ่งปันข้อมูลที่สามารถแจกจ่ายข้อมูลและใครรับผิดชอบในการอัปเดตและรักษาข้อมูลได้ บริษัท สามารถใช้ซอฟต์แวร์จาก Spector Soft Corporation ซึ่งจะบันทึกการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของพนักงานทุกคนใช้เวลาในแต่ละไซต์และส่งอีเมลทั้งหมด นอกจากนี้ บริษัท ยังสามารถใช้ซอฟต์แวร์การตรวจสอบอีเมลเพื่อระบุข้อความและคำหลักบางประเภทภายในข้อความเพื่อการตรวจสอบต่อไปนโยบายการใช้งานของ บริษัท ซึ่งรวมถึงกฎพื้นฐานที่ชัดเจนซึ่งระบุตำแหน่งหรือระดับภายใต้สถานการณ์ที่พนักงานสามารถใช้สิ่งที่เป็นมิตรกับองค์กรอีเมลการบล็อกหรือการท่องเว็บ
3.   ผู้จัดการควรแจ้งพนักงานว่าเว็บของพวกเขากำลังถูกตรวจสอบพฤติกรรม ? หรือผู้จัดการควรตรวจสอบอย่างลับๆหรือไม่?
ตอบ  ผู้จัดการควรแจ้งให้พนักงานทราบว่ามีการตรวจสอบการใช้งานเว็บของตน นี้เป็นเพราะ :
            - เพื่อหลีกเลี่ยงพนักงานที่ใช้ธุรกิจส่วนตัวของตน
            - พนักงานสามารถมีสมาธิในระหว่างชั่วโมงการทำงาน
            - ปรับปรุงประสิทธิภาพของ บริษัท
            - ให้พนักงานรู้ว่า บริษัท อยู่ที่ไหน

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2561

กรณีศึกษาที่ 3 : STARBUCKS


กรณีศึกษาที่ 3 : STARBUCKS


สมาชิก
1นางสาวกัญญาณัฐ     โสมาพงศ์          58127328011
2นางสาวศันสนีย์         แสงประเสริฐ    58127328018
3นายนพรัตน์               แดงหล่ำ            58127328031
4นางสาวเกศนีย์           แก้วศรี              58127328035
5นางสาวมณีวรรณ      ตั้งถาวร             58127328037

กรณีศึกษาที่ 3 : วิธีการที่ STARBUCKS ใช้ในการปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรดิจิทัลและสังคม
1. ปัญหาของ Starbucks คืออะไร เหตุใด Starbucks จึงเลือกแนวทางของเครือข่ายดิจิทัลและสังคมมาแก้ปัญหาของธุรกิจที่เกิดขึ้น
ตอบ  ปัญหา คือรายได้จากการดำเนินการลดลง เศรษฐกิจชะลอตัว และการเพิ่มขึ้นของคู่แข่ง เช่น Green Coffee Mountain Roasters  และที่ Starbucks เลือกแนวทางของเครือข่ายดิจิทัลและสังคม เพราะ ต้องการมีปฎิสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้าของตนเองมากขึ้น
2. อธิบายว่าการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานของร้านค้าStarbucks ในรูปแบบเดิม มาริเริ่มโครงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร
ตอบ     1. มีโอกาสเพิ่มรายได้ จากการโฆษณาสินค้าใน สื่อออนไลน์ต่างๆ เช่น YouTube, Instagram
2. ช่วยเพิ่มปฎิสัมพันธ์กับลูกค้า กระจายข่าวสาร ลงรูปภาพ โปรโมชั่น และข้อเสนอพิเศษ ผ่านช่องทางต่างๆ ในสื่อออนไลน์ ที่มีผู้ติดตามจากทั่วโลก
3. อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า โดยการชำระสินค้าผ่านมือถือ
3. วิเคราะห์โครงการสื่อสังคมออนไลน์ ของ Starbucks ที่ได้ดําเนินการไปแล้ว เช่น Website, Facebook,Twitter, Google+, Youtube, Flickr, และ Instagram เป็นต้น ว่ามีจุดเด่น และจุดด้อยอะไรบ้าง และนําเสนอสิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไขบนสื่อเหล่านั้น
ตอบ  จุดเด่น
1.ข้อมูลในเว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือสามารถทำให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจ
2.มีตัวอย่างสินค้าให้ผู้บริโภคได้เข้ามาศึกษาว่าน่าสนใจหรือไม่เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ
3.Starbucks ให้ความสำคัญแก่ลูกค้าจึงมีการนำเสนอข้อมูลต่างๆในเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าไว้วางใจ
 4.Starbucks เน้นคุณภาพของสินค้าโดยในเว็บไซต์มีการบอกเรื่องราวเกี่ยวกับการคัดสรรเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดในการผลิตเครื่องดื่ม
5.Starbucks เพิ่มโอกาสให้สมาชิกโดยมีการลงทะเบียนสตาร์บัคส์คาร์ดเพื่อให้สมาชิกได้ตรวจสอบข้อมูลของบัตรสตาร์บัคส์คาร์ด เช่นการตรวจสอบยอดเงินในบัตรและป้องกันเงินที่จะสูญหาย
6.ในเว็บไซต์ลูกค้าสามารถติดต่อกับ Starbucks ได้โดยการส่งความคิดเห็นไปยังอีเมล์หรือมีข้อสงสัยใดๆก็สามารถโทรไปสอบถามได้
 จุดด้อย
1.มีคู่แข่งทางด้านธุรกิจรายใหญ่ๆเยอะจึงอาจดึงดูดลูกค้าไปบ้าง
2.เว็บไซต์ของคู่แข่งก็มีความน่าสนใจลูกค้าจึงอาจเอนเอียงไปใช้บริการเว็บไซต์ของคู่แข่ง
3.รูปภาพสินค้าทางเว็บอาจไม่เหมือนสินค้าจริง อาจทำให้ลูกค้าไม่ค่อยพึงพอใจเมื่อเห็นสินค้าจริง สิ่งที่
สตาร์บัคควรปรับปรุง
1.ไม่ควรมีรายการอาหารเยอะเพราะอาจจะเสียบรรยากาศร้านกาแฟ อาจจะแยกโซนของรายการอาหาร ให้อยู่คนละหมวดหมู่กับกาแฟ
2.จัดโปรโมชั่นทางเว็บไซต์เพื่อดึงให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการทางเว็บและเพิ่มลูกค้าหน้าใหม่ๆ
3เพิ่มช่องทางการชำระเงิน ให้สามารถชำระเงินได้หลายช่องทางมากขึ้น เช่น ทาง ทรูมันนี่ วอลเล็ท Line Pay เป็นต้น
4.อธิบายว่าเครือข่ายดิจิทัลและสังคม ทั้งโครงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และโครงการสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และความภักดีกับลูกค้าของ Starbucks ได้อย่างไร
ตอบ  การนำเครือข่ายดิจิทัล และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจ  Starbucks ทำให้ลูกค้าได้ติดตามสินค้าจากเว็บไซต์ ได้พุดคุยแลกเปลี่ยนรวมถึงสอบถามข้อมูลจากแอดมินเพจ ทำให้ลุกค้ากับผู้จัดการทางร้านได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน รวมถึงการแจ้งโปรโมชั่นและข่าวสารต่างๆ ให้ลุกค้าทราบอยู่เสมอ จะทำให้ลุกค้าได้รับข้อมูลต่างๆติดตามเรื่อยๆ จนเกิดเป็นความคุ้นชิน และเกิดความภักดีในตราสิยค้า
5. วิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จในการนาเครือข่ายดิจิทัลและสังคม มาใช้ในการดำเนินงานของ Starbucks ประกอบด้วยปัจจัยอะไรบาง
ตอบ     1.คุณภาพของผลิตภัณฑ์ (ข้อกำหนด)กาแฟที่ผลิตทั้งหมดต้องตรงตามมาตรฐานคุณภาพสูงของสตาร์บัคส์
2.ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ทางเศรษฐกิจ (ข้อกำหนด):
การปฏิบัติงานต้องมีความโปร่งใส ซัพพลายเออร์ต้องส่งหลักฐานการชำระเงินในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตและจัดส่งกาแฟ เพื่อแสดงว่าเงินที่สตาร์บัคส์ได้จ่ายเพื่อซื้อกาแฟสด (ที่ยังไม่ได้คั่วนั้นถึงมือชาวไร่เป็นจำนวนเท่าใด
3.ความรับผิดชอบต่อสังคม (ประเมินโดยผู้ตรวจสอบภายนอก):
มีการใช้มาตรการต่างๆ ที่ได้รับการประเมินโดยผู้ตรวจสอบจากภายนอก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสภาพการทำงานนั้นปลอดภัยและเป็นธรรม รวมถึงมีการปกป้องสิทธิของคนงานและจัดหาที่อยู่อาศัยที่มีสภาพเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดแบบบังคับให้ปฏิบัติตามกฎหมายด้านค่าจ้างขั้นต่ำ แรงงานเด็ก และการบังคับใช้แรงงาน
4.ความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม (ประเมินโดยผู้ตรวจสอบภายนอก):
มีการใช้มาตรการในการจัดการของเสีย การรักษาคุณภาพน้ำ การรักษาทรัพยากรน้ำและพลังงาน การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการลดการใช้สารเคมีในการเกษตร


วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2561

กรณีศึกษา ครั้งที่ 4 AMCO Business solutions กับธุรกิจยางล้อรถยนต์


กรณีศึกษา ครั้งที่ 4 AMCO Business solutions กับธุรกิจยางล้อรถยนต์



สมาชิก
1นางสาวกัญญาณัฐ     โสมาพงศ์          58127328011
2นางสาวศันสนีย์         แสงประเสริฐ    58127328018
3นายนพรัตน์               แดงหล่ำ            58127328031
4นางสาวเกศนีย์           แก้วศรี              58127328035
5นางสาวมณีวรรณ      ตั้งถาวร             58127328037
1. วิเคราะห์และอธิบายประโยชน์ของระบบการบริหารทรัพยากรขององค์กร (Enterprise Resource Planning : ERP) สำหรับธุรกิจยางรถยนต์ ต่อกระบวนการทางธุรกิจของฝ่ายต่างในองค์กร แยกเป็นด้านการผลิต ด้านการตลาด ด้านการเงินและบัญชี และด้านทรัพยากรมนุษย์

          ตอบ การวิเคราะห์การวางแผนทรัพยากรธุรกิจเพื่อให้เกิดประโยชน์สูสุด ของทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการจัดการและวางแผนการใช้ทรัพยากรต่างๆ ขององค์กร โดยเป็นระบบเชื่อมโยงระบบต่างๆขององค์เข้าด้วยกัน ประโยชน์ของระบบการบริหารทรัพยากรขององค์กร มีดังนี้

1. ระบบ ERP สามารถรวบรวมข้อมูลทางการเงินของบริษัทเพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงเข้าใจภาพรวม ของฐานะทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการตัดสินใจของผู้บริหาร

2. ระบบ ERP รวบรวมข้อมูลการสั่งสินค้าของลูกค้าตั้งแต่การสั่งซื้อของลูกค้าผ่านตัวแทนขาย จนกระทั่งถึงขั้นตอนของการส่งสินค้าและเก็บเงิน ทำให้บริษัทดำเนินการต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว รวมถึง สื่อสารภายในระหว่างกันได้ง่ายขึ้น และสามารถตรวจสอบสถานการณ์ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. สร้างมาตรฐานและเพิ่มความรวดเร็วในการวางแผนและควบคุมการผลิต ทำให้ประหยัดเวลาในการดำเนินการ และสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลการผลิต เพื่อนำไปสู่การเพิ่มผลิตภาพ การผลิตและการลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี

4. ลดต้นทุนสินค้าคงคลัง ระบบ ERP ช่วยให้การวางแผนและควบคุมสินค้าคงคลังมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดตารางการผลิตหลัก (Master Production Scheduling, MPS) การวางแผนความต้องการวัสดุ (Material Requirements Planning, MRP) การควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Control) และการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management)

5. เชื่อมโยงข้อมูลทั่วทั้งองค์กรได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่มีหลายหน่วยธุรกิจ ซึ่งระบบ ERP จะสามารถลดปัญหาการสื่อสาร การเชื่อมโยงข้อมูล การวางแผนร่วมกัน ระหว่าง แผนกต่าง ๆ เช่น สามารถลดต้นทุนที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม สามารถส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าได้ตามกำหนด เวลา และสามารถตอบสนองลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
          ประโยชน์ของระบบการบริหารทรัพยากรขององค์กร ด้านการผลิต ด้านการตลาด ด้านการเงินและบัญชี และด้านทรัพยากรมนุษย์ ได้แก่

1. ด้านการผลิต คือ การไหลของวัตถุดิบป้อนสู่ไลน์การผลิต และการไหลของข้อมูล AMCO Business Solutions ทำหน้าที่ในการจัดการข้อมูล ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการงานในกิจกรรมด้านการผลิต ที่เชื่อมโยงกันให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด พร้อมกับสามารถรับรู้สถานการณ์และปัญหาของงานต่างๆ ได้ทันที ทำให้สามารถตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาองค์กรได้อย่างรวดเร็ว

          ความสามารถในการวางแผนการผลิตที่ดี เริ่มต้นคำสั่งซื้อแปลงมาเป็นคำสั่งผลิต (Convert Sales Order to Manufacturing Order) เพื่อลดความซ้ำซ้อน และลดเวลาการทำงานเดิม ผลิตให้ตรงกับความต้องการได้อย่างแม่นยำ ทันเวลา

2. ด้านการตลาด คือ AMCO ERP ช่วยให้การติดตามข้อมูลการขายระหว่างตัวแทนจำหน่ายและสำนักงานใหญ่เป็นเรื่องง่าย เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย โดยมีหัวใจสำคัญคือการแจ้งสิทธิและผลตอบแทนที่ชัดเจนที่ตัวแทนจำหน่ายจะได้รับ และยังใช้เป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างพนักงานขาย เจ้าหน้าที่การตลาด และตัวแทนจำหน่าย ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่พลาดข้อมูลสินค้าและโปรโมชั่นล่าสุด รวมถึงข่าวสารต่างๆ จากสำนักงานใหญ่  การติดต่อสื่อสารสามารถทำได้ทั้งสองทาง โดยฝ่ายขายและการตลาดสามารถสร้างแบบฟอร์มแสดงความคิดเห็นเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับสินค้า โปรโมชั่น แคมเปญ หรืออื่นๆ จากตัวแทนจำหน่ายได้

          AMCO ERP เหมาะสำหรับธุรกิจโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ ที่ต้องการเครื่องมือเพื่อควบคุมต้นทุนการขายและวัดประสิทธิภาพของพนักงานขาย ได้แก่ ผู้บริหารกำหนดแคมเปญ โปรโมชั่น ของสินค้าได้ตามต้องการ / พนักงานขายเรียกดูราคาแคมเปญ โปรโมชั่น ของสินค้าแต่ละประเภทได้โดยไม่เห็นราคาต้นทุน / ผู้บริหารทราบกำไรหรือขาดทุนเบื้องต้นจากรายงานการขายที่พนักงานขายขออนุมัติ / คำนวณค่าคอมมิสชั่นตามยอดกำไรสุทธิที่พนักงานขายแต่ละคนทำได้

          การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ อำนวยความสะดวกให้ตัวแทนจำหน่ายสามารถสั่งซื้อหรือติดตามสถานะการสั่งซื้อของตนเองผ่านระบบ ERP ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจากอุปกรณ์พกพาเช่น สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ก่อนทำการสั่งซื้อตัวแทนจำหน่ายสามารถตรวจสอบจำนวนสินค้าคงคลังและระยะเวลาในการส่งสินค้าได้โดยตรง และสามารถส่งใบสั่งซื้อเข้าไปที่สำนักงานใหญ่อัตโนมัติและติดตามสถานะใบสั่งซื้อได้โดยตรง ทั้งยังสามารถตรวจสอบข้อมูลอื่นๆ ในระบบได้ดังนี้

-          ตรวจสอบสถานะใบสั่งซื้อว่าถึงขั้นตอนใดแล้ว อนุมัติแล้วหรือยัง

-          ตรวจสอบระยะเวลาในการสั่งซื้อสินค้าแต่ละตัวและประมาณเวลาในการส่งสินค้าถึงมือสินค้าได้

-          ส่งคำเตือนสำหรับสินค้าที่ไม่สามารถส่งให้ลูกค้าได้ตามกำหนดเวลา

     หากตัวแทนจำหน่ายมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือใดๆ ก็สามารถติดต่อกับทีมงานได้ตลอดเวลาผ่านหน้าจอสนทนาที่เตรียมไว้

     การประเมินประสิทธิภาพการขาย ช่วยให้ตัวแทนจำหน่าย และผู้บริหารเห็นยอดขายในปัจจุบันเทียบกับเป้าหมายมรากำหนดไว้ เพื่อกระตุ้นให้ตัวแทนจำหน่าย ทำยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังสามารถแสดงข้อมูลสำคัญต่างๆ ได้ ดังนี้

-          ยอดขายรวมของตัวแทนจำหน่ายเทียบกับเป้าหมายหรือเทียบกับยอดขายตามเขตการขายหรือทั้งประเทศ

-          ตัวแทนจำหน่ายสามารถดูประสิทธิภาพการขายแยกตามประเภทของสินค้าได้

-          สามารถดูได้ว่ามีแคมเปญและสินค้าตัวใดบ้างที่ขายดีหรือขายได้น้อยกว่าเป้าหมาย

3. ด้านการเงินและบัญชี คือ สำหรับผู้บริหารของตัวแทนจำหน่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านการเงิน เช่น รายการที่ต้องจ่ายชำระ ซึ่งข้อมูลนี้จะช่วยให้ตัวแทนจำหน่ายทราบถึงรายการที่ต้องจ่ายชำระให้กับทางสำนักงานใหญ่ ตัวแทนจำหน่ายสามารถเห็นข้อมูลด้านการเงินล่าสุดของตนเอง ทันทีเมื่อของใช้งานระบบ ซึ่งรวมถึงข้อมูลต่างๆ ดังนี้

-    รายได้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน

-    ภาระหนี้ค้างจ่าย

-    จำนวนเงินที่จ่ายในเดือนที่แล้ว

-    ผลการดำเนินงานเปรียบเทียบรายเดือน รายไตรมาส รายปี

     นอกจากนี้ AMCO ERP ยังมีเครื่องมือเพื่อขยายขีดความสามารถในการบริหารการผลิต เรียกว่า Production Business Intelligence Dashboard (PBID) เพื่อแสดงภาพรวมของกิจกรรมการขายสำหรับตัวแทนจำหน่าย ที่สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงข้อมูลให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของแต่ละองค์กรได้ ทั้งรูปแบบที่เป็นตารางและกราฟต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าและบริการ ขณะที่สำนักงานใหญ่สามารถติดตามกิจกรรมการขายของตัวแทนจำหน่ายทุกราย โดนรู้ได้ทันทีว่าตัวแทนจำหน่ายรายใดมียอดขายมากที่สุดหรือน้อยที่สุด ยอดรายการชำระเงินคงค้าของตัวแทนแต่ละราย และสามารถในการขายโดย

เปรียบเทียบจากยอดขายตามรายสินค้าและโปรโมชั่นได้ด้วย ทำให้ผู้บริหารทราบถึงภาพรวมและสถานการณ์ดำเนินงานที่ครบทุกมุมมอง โดยนำไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงกระบวกการผลิตสินค้าและบริการของตนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

4. ด้านทรัพยากรมนุษย์ คือ ช่วยให้มองเห็นภาพรวมการขายผ่านระบบ ERP ไม่ว่าจะเป็นในปัจจุบันหรือจากประวัติการขายที่ผ่ายมา โดยเจาะลึกถึงระดับข้อมูลการขายสินค้า แต่ละรายการในแต่ละช่วงเวลา ทั้งในภาพรวมและลงรายละเอียดแยกตามพนักงานขายแต่ละคน ซึ่งสามารถนำไปวิเคราะห์และทราบถึงพฤติกรรมในการซื้อของลูกค้าและการติดตามงานของพนักงานขาย เพื่อช่วยในการกำหนดกลยุทธ์ในการขายให้ดียิ่งขึ้น

     AMCO ERP มีรายงานวิเคราะห์การขายรายพนักงานและรายทีม รวมถึงวิธีการคำนวณค่าคอมมิสชั่นแบบขั้นบันไดที่คาดว่าจะได้รับจากยอดขายในปัจจุบัน และรับทราบถึงสถานการณ์การขายในปัจจุบันเทียบกับเป้าที่จะต้องทำให้ได้ในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งสามารถทำให้วางแผนการขายได้อย่างรัดกุมยิ่งขึ้นเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

     นอกจากนี้ AMCO ERP ยังมีรายงานวิเคราะห์เปรียบเทียบยอดขายตามโปรโมชั่นและค่าการตลาด ที่จะช่วยวัดประสิทธิภาพในการขายจากแต่ละโปรโมชั่นว่าได้ผลมากน้อยเพียงใด เพื่อช่วยในการวางแผนกระตุ้นการขายอย่างต่อเนื่องในอนาคต


2. การวิเคราะห์และอธิบายปัจจัยความสำเร็จของการนำระบบการบริหารทรัพยากรขององค์กร (Enterprise Resource Planing : ERP ) มาใช้ในธุรกิจยางล้อรถยนต์

          ตอบ ปัจจัยความสำเร็จในการบริหารทรัพยากรขององค์กรคือการใช้ฐานข้อมูลร่วมกันเพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนของข้อมูลเป็นการผสมผสานกลยุทธ์ทางธุรกิจ เทคโนโลยี และบุคลากรเพื่อให้มีประสิทธิภาพ ทำเกิดการจัดสรรที่ดี ดังต่อไปนี้

 1 . การวางระบบโดยเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆเข้าด้วยกัน ตั้งแต่การจัดซื้อ จัดจ้าง การผลิต การขาย บัญชีการเงิน ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการในกิจกรรมต่างๆเชื่อมโยงกัน พร้อมกับสามารถรู้สถานการณ์ปัญหาของงานต่างๆได้ทันที ทำให้สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาได้รวดเร็ว

2. สามารถลดปัญหาข้อมูลที่ซ้ำซ้อนกัน ลดข้อผิดพลาดของข้อมูล ช่วยให้สามารถทำการปิดบัญชีได้ทุกวัน เป็นรายวัน คำนวณต้นทุน และ กำไร ของบริษัทได้เป็นรายวัน

3. สามารถทราบคำสั่งซื้อ คำสั่งขาย ได้ทันที ทุกที่ ทุกเวลา

4. สามารถวางแผนการผลิตได้เป็นอย่างดีทำให้การผลิตแม่นยำตรงตามความต้องการ

5. ผู้บริหารสารถตรวจสอบและติดตามการทำงานได้ง่าย


3. วิเคราะห์และอธิบายความสามารถของระบบการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management : CRM) สำหรับธุรกิจยางล้อรถยนต์ ควรมีคุณลักษณะอย่างไร

ตอบ

1.       ช่วยเพิ่มความสามารถในการให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น เพิ่มช่องทางให้ลูกค้าแนะนำติชมต่อบริการขององค์กร

2.       ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับลูกค้าและคู่ค้าให้ดีขึ้น ความต้องการ และพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าและคู้ค้า

3.       สร้างความจงรักภักดี (Loyalty) ของลูกค้าในระยะยาว การได้มาซึ่งลูกค้านั้นว่ายากแล้ว แต่การรักษาลูกค้าให้อยู่ไปนานๆ ยากยิ่งกว่า องค์กรจะต้องถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่าและต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดี เพราะช่วยในองค์กรลดการสูญเสียลูกค้า

4.       เพิ่มยอดขายในระยะยาว การรักษาฐานลูกค้าเก่ามีความสำคัญมาก เพราะลูกค้าเหล่านี้มีแนวโน้มสูงที่จะซื้อสินค้าและบริการและซ้ำอีกเรื่อยๆ ในอนาคต

5.       เพิ่มโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ การมีคู่ค้าที่ดี จะทำให้ความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการเจริญเติบโตของธุรกิจรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว


4.วิเคราะห์และอธิบายความสามารถของระบบการบริหารห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Manegement : SCM) สำหรับธุรกิจยางล้อรถยนต์ ควรมีคุณลักษณะอย่างไร

          ตอบ การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานนั้นมีความสำคัญต่อการผลิต เพราะการบริหารที่ดีจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวสินค้า การบริการต่างๆได้อย่างไม่ติดขัด และประหยัดค่าใช้จ่าย ควรมีคุณลักษณะ ดังนี้

1) AMCO ERP เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการบริหารจัดการและวางแผนอย่างครอบคลุม

2) PBID Screen เปลี่ยนข้อมูลที่ซับซ้อนเป็นตารางที่เข้าใจได้ง่าย และนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ

3) ตอบสนองการตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที ทราบสถานะดำเนินการปัจจุบันและคาดการณ์ความเสี่ยงในอนาคต ให้เห็นถึงสาเหตุและแก้ไขได้ตรงจุด

4) สนับสนุนการวางแผนหรือกำหนดนโยบาย จะช่วยให้ผู้บริการมองเห็นสถานการณ์ปัจจุบันและนำไปพยากรณ์แนวโน้มทีเกิดในอนาคต

5) บริหารและควบคุมงบประมาณและค่าใช้จ่าย ทราบถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อควบคุมการผลิต และไม่ทำให้ต้นทุนสินค้าสูงเกินไป

6) วัดประสิทธิภาพในการผลิต เป็นมาตรฐานสากลในการวัดที่ทำให้ผู้บริหารเห็นภาพรวมและนำไปกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสม เรียกว่า วัดประสิทธิภาพในการผลิตโดยรวมของเครื่องจักร (Overall Equipment)